คลังเก็บหมวดหมู่: BGH

หุ้น BGH บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ

ผู้นํา ร.พ. เอกชนไทยที่พร้อมก้าวขึ้นสู่เวทีแข่งขันระดับโลก

ไตรมาส 4/55 กําไรโต 58%YoY ส่งผลทั้งปี 55 โต80%YoY รับผลจากการเติบโตอย่าง แข็งแกร่งของตลาดผู้ป่วยไทยและต่างชาติ บวกกับ การปรับขึ้นค่ารักษาทุกปี และประหยัดได้จากการที่มีเครือข่าย คาดว่าปี 2556 กําไรปกติยังโตอีก 23%YoY ซึ่งในประมาณการยังไม่ได้รวมกรณีที่อาจมีดีลซื้อกิจการ ร.พ. ที่มีกําไรดีอย่างมีนัยฯ ในอนาคต เพราะ BGH ยังมีแผนขยายเครือข่ายธุรกิจ ร.พ. ทุกรูปแบบอีกปีละ3-4 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกตลาดในไทย อีกทั้งยังเป็นการรองรับอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นหลังเปิด AEC ซึ่ง ทั้งนี้จากศักยภาพการเติบโตที่ดี อีกทั้งยังมี Upside 24% จากราคาเป้าหมายใหม่ปี 2556 ที่ 180 บาท แนะนําเป็น ซื้อลงทุน

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)


  • กําไรตามคาด: ไตรมาส 4/55 BGH มีกําไรปกติ 1,406 ล้านบาท โต 58%YoYเป็นไปตามคาดการณ์ ส่งผลให้ปี 2555 กําไรปกติ 5,856 ล้านบาท โต 50%YoY อย่างไรก็ดีหากรวมกําไรพิเศษสุทธิจากปรับมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุนเดิมและจากส่วนแบ่งกําไรเงินลงทุนในบริษัทร่วม 2,081 ล้านบาท รวมแล้วทั้งปี 2555 จะมีกําไรสุทธิ 7,937 ล้านบาท โต 80%YoY ซึ่งไตรมาส 4/55 มีแรงหนุนการเติบโตจาก
    1. รายได้ค่ารักษาโต 22%YoY เนื่องจากมีการปรับขึ้นค่ารักษาตั้งแต่ต้นปีและการเข้ามารักษาโรครุนแรงเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการร่วมมือกันในการส่งต่อผู้ป่วยในเครือข่าย ต่างจากไตรมาส 4/54 ที่ได้ผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ส่งผลให้ปี 55 รายได้เพิ่มขึ้นจากผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเป็น 24%YoY และ 23%YoY ตามลําดับ
    2. อัตรากําไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก30.3% ในไตรมาส4/54 เป็น33.7% เพราะอัตราเข้ามารักษาด้วยโรครุนแรงที่มีเพิ่มขึ้น(มาร์จิ้นสูงกว่าการรักษาโรคทั่วไป) สามารถหักล้างต้นทุนที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าวิชาชีพและการเพิ่มจํานวนบุคลากรการแพทย์
    3. การปรับขึ้นของค่าแรงค่าไฟฟ้า และค่าโฆษณา แม้จะทําให้ SG&A (excl. depre)/Salesสูงขึ้นจาก13.2% ในไตรมาส 4/54 เป็น 14.2% แต่ชดเชยได้จากอัตราภาษีนิติบุคคลที่เหลือ23%
  • ƒ ปรับเพิ่มประมาณการตั้งแต่ปี56 : เพื่อสะท้อนปัจจัยบวกจากที่ล่าสุดรัฐบาลได้ขยายเวลาพํานักในไทยจากเดิม 30 วัน เป็น 90 วัน ให้แก่ผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามารักษา 6 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และ UAEโดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 56 ซึ่งนับเป็นผลดีต่อ BGH ที่มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติชาวตะวันออกกลางอยู่ราว 2-3% ของรายได้ค่ารักษารวม บวกกับ BGH มีการควบคุมต้นทุนที่ดีและมีอํานาจต่อรองสูงขึ้นหลังมีเครือข่ายเพิ่มจนก่อให้เกิดการประหยัดจากขนาดได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้ ประมาณการทำกําไรปี 2556 BGH จะมีกําไรปกติ 7,172 ล้านบาทเติบโต 23%YoY ซึ่งยังไม่ได้รวมการมีดีลซื้อ ร.พ. ที่มีกําไรดีอย่างมีนัยฯ เพิ่มเข้ามาในอนาคตƒ
  • เดินเครื่องขยายธุรกิจทุกรูปแบบ: หลังจากล่าสุด BGH ประกาศซื้อ KDH(คาดจบดีลเดือน มี.ค. นี้) ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ย่านฝั่งธน เพราะโซนนี้ไม่มี โรงพยาลาลในกลุ่ม BGH อยู่ โดยแม้ช่วง 2 ปีนี้จะยังไม่ได้ส่งผลบวกอย่างมีนัยฯ แต่ด้วยประสบการณ์ และความมีชื่อเสียงอีกทั้ง BGH มีแผนปรับปรุง KDH เป็น ร.พ.เจาะตลาดพรีเมียม คาดว่า KDH จะเป็นอีก ร.พ. เครือข่ายที่ช่วยหนุนการเติบโตให้แก่ BGH ได้ในระยะยาว ส่วนช่วงที่เหลือปีนี้ BGH ยังมีแผนขยายเครือข่ายธุรกิจ ร.พ. เพิ่มอีกเฉลี่ยปีละ 4-5 แห่งเพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกตลาดในไทย อีกทั้งยังเป็นการรองรับอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นหลังเปิด AEC ซึ่ง BGH อาจสร้าง ร.พ. ใหม่เองหรือเข้าซื้อ ร.พ. ที่มีอยู่เดิมก็ได้ ถือเป็นประเด็นที่ต้องจับตา เพราะส่งผลต่อมูลค่าเพิ่มของบริษัทได้อีก
  • ƒ เพิ่มคําแนะนํา ซื้อลงทุน : ผลจากการปรับเพิ่มประมาณการ บวกกับ หลังเปิดAEC คาดว่า BGH จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการมีเครือข่าย ร.พ. ครอบคลุมทุกภูมิภาคในไทยอีกทั้งด้วยจุดแข็งของ BGH ที่เป็น ร.พ. เอกชนใหญ่สุดในไทย และมีมาร์เก็ตแคปเป็นอันดับ 3ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้สนใจลงทุนได้ไม่ยาก(หลังเปิด AEC เพดานถือหุ้นชาวต่างชาติจะเพิ่มจากปัจจุบันที่ 49% เป็น 70%) ดังนั้นจึงขอปรับเพิ่ม Terminal Growth Rate จากเดิม 3% เป็น 6% ส่งผลให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2556 (วิธีDCF เช่นเดิม)อยู่ที่ 180 บาท ยังมี Upside 24% จึงปรับเพิ่มคําแนะนําจาก ถือ เป็น ซื้อลงทุน

credit: บทวิเคราะห์ ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล